ในยุคสมัยที่ค่าครองชีพสูงขึ้น หลายคนมองหาทางเลือกเพื่อเพิ่มเงินออมและสร้างหลักประกันให้กับตัวเองและครอบครัว ประกันชีวิตและประกันสุขภาพจึงกลายเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยม แต่รู้หรือไม่ว่า ประกันบางประเภทสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับประกันที่ลดหย่อนภาษีได้ (https://www.tokiomarine.com/th/th/life/products/personal/life/endownment/tax-saver.html) อธิบายถึงประเภทของประกัน เงื่อนไข และข้อจำกัด เพิ่มเติมด้วยตัวอย่าง เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกประกันที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
(https://i.imgur.com/F8hSyi0.png)
ประเภทของประกันที่ลดหย่อนภาษีได้
1. ประกันชีวิตแบบสะสมทุน
ประกันชีวิตแบบสะสมทุน มุ่งเน้นการจ่ายเงินก้อนเมื่อครบกำหนดสัญญา หรือกรณีเสียชีวิต
เงื่อนไข:
- ระยะเวลาคุ้มครองต้องตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
- เงินคืนระหว่างสัญญาต้องไม่เกิน 20% ของเบี้ยประกัน
2. ประกันชีวิตแบบบำนาญ
ประกันชีวิตแบบบำนาญ มุ่งเน้นการจ่ายเงินบำนาญรายเดือนหลังเกษียณอายุ
เงื่อนไข:
- ระยะเวลาคุ้มครองต้องตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
- เงินบำนาญที่ได้รับต้องนำมารวมรายได้เพื่อเสียภาษี
3. ประกันสุขภาพ
ประกันสุขภาพ ช่วยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ
เงื่อนไข:
- ผู้เอาประกันต้องมีอายุไม่เกิน 70 ปี
- ทุนประกันต่อคนไม่เกิน 10 ล้านบาท
4. ประกันอุบัติเหตุ
ประกันอุบัติเหตุ ช่วยคุ้มครองกรณีเสียชีวิต ทุพพลภาพ หรือสูญเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ
เงื่อนไข:
- ผู้เอาประกันต้องมีอายุไม่เกิน 60 ปี
- ทุนประกันต่อคนไม่เกิน 10 ล้านบาท
5. ประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit-Linked)
ประกันชีวิตควบการลงทุน เป็นการผสมผสานระหว่างประกันชีวิตและการลงทุน
เงื่อนไข:
- ระยะเวลาคุ้มครองต้องตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
- เงินส่วนที่ลงทุนมีความเสี่ยง
ข้อจำกัด
- วงเงินสูงสุดสำหรับการลดหย่อนภาษีประกันชีวิตและประกันสุขภาพรวมกันอยู่ที่ 100,000 บาท
- เบี้ยประกันที่นำมาลดหย่อนภาษีได้ ต้องไม่เกิน 15% ของเงินได้สุทธิ
- ผู้เอาประกันต้องเป็นผู้จ่ายเบี้ยประกันเอง
- ต้องเก็บใบเสร็จรับเงินไว้เพื่อแสดงต่อกรมสรรพากร
อย่างไรก็ตาม การเลือกประกันที่ลดหย่อนภาษีได้ควรพิจารณาจาก
- ความต้องการและความเสี่ยง: ประเมินความต้องการและความเสี่ยงด้านการเงินของคุณ เลือกประกันที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณ
- ความสามารถทางการเงิน: เลือกประกันที่เหมาะกับเงินเดือนและค่าใช้จ่ายของคุณ ไม่ควรจ่ายเบี้ยประกันจนกระทบกับสภาพคล่องทางการเงิน
- เงื่อนไขและข้อจำกัด: ศึกษาข้อมูลประกันแต่ละประเภท เงื่อนไข ความคุ้มครอง และผลตอบแทน เปรียบเทียบจากหลายบริษัท
- ตัวแทนประกัน: ปรึกษาตัวแทนประกันมืออาชีพ
โดยสรุปแล้ว การทำประกันที่ลดหย่อนภาษีได้ ถือเป็นทางเลือกที่ช่วยให้คุณออมเงินและสร้างหลักประกันให้กับตัวเองและครอบครัว พร้อมช่วยให้คุณสร้างอนาคตในฝันได้อย่างที่ต้องการ อย่างไรก็ตาม ในการที่เราจะเลือกทำประกันภัย ควรพิจารณาจากความต้องการและความสามารถทางการเงินของคุณ โดยควรศึกษาข้อมูล และเปรียบเทียบให้ละเอียด เพื่อเลือกประกันที่ลดหย่อนภาษีได้ที่เหมาะสมกับคุณ