(https://i.imgur.com/2FZ4tCj.jpeg)
สำหรับหลายๆ คน การมีเงินสดอยู่ในมือมากๆ อาจนำไปสู่การใช้จ่ายแบบไม่ทันคิด จนทำให้ท้ายที่สุด เงินในแต่ละเดือนก็อันตรธานหายไปไม่มีเหลือ สำหรับใครที่มีปัญหาเก็บเงินไม่อยู่จนอยากซื้อทอง (https://www.keptbykrungsri.com/kept-tips/saving-formula/5-how-to-save-money)มาเก็บไว้ อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วย "เก็บเงิน" ได้อย่างที่ตั้งใจ
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนวิกฤตเก็บเงินไม่อยู่แล้วมาซื้อทองเก็บไว้ หากไม่มีวินัยและไม่มีความเข้าใจในกลไกของตลาดทองคำ ก็อาจไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวังก็เป็นได้ บทความนี้จะขอมาแนะนำเทคนิคและข้อควรรู้เพื่อช่วยให้คุณสามารถ "ออมทอง" ได้อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายทางการเงินอย่างที่คุณฝันไว้
เทคนิคเปลี่ยน "คนเก็บเงินไม่อยู่" สู่การ "ซื้อทอง" เพื่อการออม
หากคุณตัดสินใจแล้วว่าจะลองเปลี่ยนมาออมทองแทนการเก็บเงินสด ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ เพื่อช่วยให้คุณสามารถเก็บทองได้อย่างที่ตั้งใจและสร้างวินัยทางการเงินไปพร้อมๆ กัน
1. กำหนดเป้าหมายการออมทองที่ชัดเจน
เช่นเดียวกับการเก็บเงิน การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยสร้างแรงจูงใจและทำให้คุณมีทิศทางในการออมทองที่แน่นอน ลองถามตัวเองว่าคุณต้องการออมทองไปเพื่ออะไร? ต้องการเก็บทองคำแท่งน้ำหนักเท่าไร? หรือต้องการมีมูลค่าทองคำรวมเท่าไรภายในระยะเวลากี่ปี? การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการออมทองได้อย่างเป็นระบบ และติดตามความคืบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างเป้าหมาย
- เป้าหมายระยะสั้น: ต้องการซื้อทองคำรูปพรรณน้ำหนัก 1 บาท ภายใน 6 เดือน เพื่อเป็นของขวัญให้ตัวเอง
- เป้าหมายระยะกลาง: ต้องการสะสมทองคำแท่งน้ำหนัก 5 บาท ภายใน 3 ปี เพื่อเป็นเงินดาวน์บ้าน
- เป้าหมายระยะยาว: ต้องการมีทองคำสะสมมูลค่า 1 ล้านบาท ภายใน 10 ปี เพื่อเป็นเงินเกษียณ
เมื่อคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว ให้จดบันทึกเป้าหมายนั้นไว้และทบทวนอยู่เสมอ เพื่อเป็นการย้ำเตือนตัวเองและสร้างกำลังใจในการออมทอง สำหรับคนที่เก็บเงินไม่อยู่แล้วอยากลองซื้อทองเพื่อการออม ลองนำเทคนิคนี้ไปปรับใช้กันดู
2. กำหนดงบประมาณสำหรับการออมทองอย่างสม่ำเสมอ
หลังจากกำหนดเป้าหมายแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการวางแผนทางการเงินและกำหนดงบประมาณสำหรับการออมทองอย่างสม่ำเสมอ ลองสำรวจรายรับและรายจ่ายของคุณในแต่ละเดือน และพิจารณาว่าคุณสามารถจัดสรรเงินส่วนใดมาออมทองได้บ้าง การกำหนดจำนวนเงินหรือน้ำหนักทองคำที่คุณต้องการซื้อในแต่ละครั้ง หรือในแต่ละเดือน และพยายามทำตามแผนที่วางไว้อย่างมีวินัย จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ในการไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
3. เลือกวิธีการออมทองที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์
ปัจจุบันมีวิธีการออมทองที่หลากหลายให้คุณเลือกสรร ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ลองพิจารณาไลฟ์สไตล์และความสะดวกของคุณ เพื่อเลือกวิธีการออมทองที่เหมาะสมที่สุด
- การซื้อทองคำแท่ง: เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม เนื่องจากทองคำแท่งมีความบริสุทธิ์สูงและมีค่ากำเหน็จต่ำ เหมาะสำหรับการเก็บออมในระยะยาว
- การซื้อทองคำรูปพรรณ: นอกจากจะเป็นเครื่องประดับแล้ว ยังสามารถเก็บมูลค่าได้ แต่จะมีค่ากำเหน็จที่สูงกว่าทองคำแท่ง
- การออมทองออนไลน์: เป็นอีกทางเลือกที่สะดวกสบาย สามารถซื้อขายทองคำได้ง่ายผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ โดยมีทั้งแบบทยอยซื้อสะสม และแบบซื้อขายตามราคาตลาด
- กองทุนรวมทองคำ: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในทองคำแต่ไม่มีเวลาติดตามราคา หรือต้องการกระจายความเสี่ยง
ศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละวิธี ก่อนตัดสินใจเลือกวิธีที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากที่สุด
4. สร้างวินัยในการออมทองอย่างเคร่งครัด
หัวใจสำคัญของการออมทองให้สำเร็จคือการมีวินัยอย่างสม่ำเสมอ เมื่อคุณกำหนดเป้าหมายและงบประมาณแล้ว สิ่งสำคัญคือการปฏิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการกันเงินส่วนที่จะออมทองไว้ทันทีที่ได้รับเงินเดือน หรือการตั้งระบบซื้อทองคำอัตโนมัติ หากคุณเลือกออมทองออนไลน์
พยายามหลีกเลี่ยงการนำเงินที่ตั้งใจจะออมทองไปใช้จ่ายในเรื่องที่ไม่จำเป็น และอดทนรอคอยให้ทองคำที่คุณสะสมไว้เติบโตขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้
5. ติดตามและทบทวนแผนการออมทองอย่างสม่ำเสมอ
อีกหนึ่งเทคนิคสำหรับคนที่เก็บเงินไม่อยู่แล้วอยากซื้อทองเพื่อเป็นการออม ต้องเข้าใจก่อนว่าการซื้อทองก็เหมือนกับการลงทุนอื่นๆ ที่จะต้องติดตามและทบทวนแผนการออมทองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้คุณสามารถประเมินผลลัพธ์และปรับปรุงแผนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปได้ โดยหมั่นตรวจสอบราคาทองคำเป็นระยะ และพิจารณาว่าแผนการออมทองของคุณยังคงสอดคล้องกับเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่
หากสถานการณ์ทางการเงินของคุณเปลี่ยนแปลงไป เช่น มีรายได้เพิ่มขึ้น หรือมีค่าใช้จ่ายที่จำเป็นมากขึ้น คุณอาจต้องปรับเปลี่ยนงบประมาณการออมทองให้เหมาะสม