บริหารจัดการอาคาร: เครื่องปรับอากาศแบบไหนเหมาะกับบ้านคุณ แบบติดผนังหรือฝังเพดาน

หน้าร้อนแบบนี้ ชวนคุณมาคุยเรื่องเครื่องปรับอากาศกันดีกว่าครับ บ้านไหนกำลังจะติดตั้งเครื่องปรับอากาศตัวใหม่ แต่ไม่แน่ใจว่าจะเลือกแบบไหนดี มาดูสิ่งที่ต้องพิจารณาในการเลือกซื้อกันครับ ว่าเครื่องปรับอากาศแบบติดผนังหรือแบบฝังเพดานเหมาะกับห้องแบบไหน รวมถึงข้อดี-ข้อเสีย ไปดูกันครับ


เครื่องปรับอากาศติดผนัง

          แอร์ประเภทนี้เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย เพราะนอกจากจะมีขนาดเล็กกะทัดรัด ติดตั้งและทำความสะอาดง่ายแล้ว ยังมีราคาถูกกว่าแอร์ประเภทอื่นอีกด้วย อีกทั้งหลาย ๆ แบรนด์ยังมีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยอย่างต่อเนื่อง เช่น ฟังก์ชันการประหยัดไฟ หรือการตรวจจับการเคลื่อนไหว เป็นต้น


ข้อดี
          - ติดตั้งและดูแลรักษาง่าย
          - มีขนาดเล็กกะทัดรัด
          - ประหยัดไฟ
          - ราคาไม่สูงหากเทียบกับแอร์ประเภทอื่น
          - มีขนาดการทำความเย็น (BTU) ที่หลากหลาย


ข้อควรระวัง
          - ไม่เหมาะกับการติดตั้งในห้องขนาดใหญ่ เพราะอาจทำให้แอร์ทำงานหนักและความเย็นไม่ทั่วถึง


เครื่องปรับอากาศฝังฝ้าเพดานหรือ 4 ทิศทาง

          แอร์ประเภทนี้มักจะเห็นในสถานที่ใหญ่ ๆ หรือสำนักงานต่าง ๆ เนื่องจากมีขนาดใหญ่และสามารถกระจายลมได้หลายทิศทางเหมาะกับการใช้งานในสถานที่กว้าง
ข้อดี
          - ดีไซน์สวยงาม สามารถซ่อนใต้ฝ้าเพดานได้ ทำให้ประหยัดพื้นที่
          - สามารถกระจายอากาศเย็นได้อย่างทั่วถึงในห้องใหญ่
          - มีขนาดการทำความเย็นรัศมีไกล 12,000 – 60,000 BTU
ข้อควรระวัง
          - ราคาสูงหากเทียบกับแอร์ประเภทอื่น
          - การติดตั้ง บำรุงและรักษา ต้องทำโดยช่างที่ชำนาญการ และมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าแอร์ประเภทอื่น
          - ไม่เหมาะกับห้องที่เพดานสูงเกินกว่า 3 เมตร


เลือกเครื่องปรับอากาศแบบไหนต้องพิจารณาจากอะไร

1. ขนาดห้อง
         
การที่เรารู้ขนาดห้องสามารถนำมาคำนวณคิดค่า BTU ได้ ซึ่งค่า BTU ก็คือ หน่วยที่ใช้วัดความเย็นของแอร์ ยิ่งแอร์ที่มีจำนวน BTU สูง ก็ยิ่งมีความสามารถในการให้ความเย็นได้มาก อีกทั้งควรคำนวณร่วมกับสภาพพื้นที่ภายในบ้านด้วย ว่ามีแสงแดดส่องเข้าถึงห้องมากน้อยแค่ไหน

ขนาด BTU                    ขนาดห้องปกติ      ขนาดห้องที่โดนแดด
9,000 BTU                   12-15 ตร.ม.     10-14 ตร.ม.
12,000 BTU                 16-20 ตร.ม.     14-18 ตร.ม.
18,000 BTU                 24-30 ตร.ม.     21-27 ตร.ม.
21,000 BTU                 28-35 ตร.ม.     25-32 ตร.ม.
24,000 BTU                 32-40 ตร.ม.     28-36 ตร.ม.
25,000 BTU                 35-44 ตร.ม.     30-99 ตร.ม.
30,000 BTU                 40-50 ตร.ม.     35-45 ตร.ม.


ควรเลือกขนาด BTU ให้เหมาะกับขนาดห้อง เพราะหากห้องมีขนาดเล็กแต่เลือกแอร์ BTU ใหญ่เกินไป ก็ทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุ และหากห้องใหญ่แต่เลือกใช้ BTU เล็กก็จะทำให้แอร์ทำงานหนักและมีโอกาสชำรุดได้ง่าย


2. ค่าใช้จ่าย
          แอร์แต่ละประเภทมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น ราคาตัวเครื่อง ค่าติดตั้ง ค่าการกินไฟ ค่าซ่อมบำรุง เป็นต้น ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้เจ้าของบ้านควรนำมาพิจารณาให้ดีก่อนซื้อ


3. ความสวยงาม
          แอร์แบบฝังเพดานมีดีไซน์และการติดตั้งที่ให้ความสวยงามได้มากกว่าแอร์ติดผนัง แต่ก็ต้องมีการวางระบบท่อน้ำทิ้งที่เหมาะสม และการดูแลรักษาที่เฉพาะทางที่มากกว่าแอร์ติดผนัง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ใช่ว่าแอร์ติดผนังจะไม่สวยนะครับ เพราะปัจจุบันหลายแบรนด์ผู้ผลิตก็มีการออกแบบแอร์ติดผนังให้ดูมีดีไซน์มากขึ้น
         
และเพื่อให้หน้าร้อนที่บ้านคุณเย็นสบายไปนาน ๆ ไม่ว่าคุณจะเลือกติดตั้งแอร์รูปแบบไหน ก็คงต้องคำนึงถึงการใช้งานที่เหมาะสมเป็นหลักก่อน เพราะลงทุนกับเครื่องปรับอากาศเครื่องหนึ่งก็จะสามารถอยู่กับเราไปนานหลายปีเลยครับ



บริหารจัดการอาคาร: เครื่องปรับอากาศแบบไหนเหมาะกับบ้านคุณ แบบติดผนังหรือฝังเพดาน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://snss.co.th/dt_post/technical-services/