รู้จักกับโรคไวรัสตับอักเสบแต่ละชนิด

  • 0 ตอบ
  • 1485 อ่าน
รู้จักกับโรคไวรัสตับอักเสบแต่ละชนิด

ไวรัสตับอักเสบปัจจุบันมี 5 ชนิด คือ ไวรัสตับอักเสบชนิด เอ บี ซี ดี และอี ซึ่งไวรัสตับอักเสบที่พบบ่อย คือไวรัสตับอักเสบชนิดเอ บี และซี ส่วนไวรัสตับอักเสบชนิดดีและอีพบได้น้อย

ไวรัสตับอักเสบเอ (HEPATITIS A VIRUS)

ไวรัสตับอักเสบเอ ติดต่อโดยการรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนไวรัส เช่น ผักสด น้ำแข็ง อาหารทะเลจำพวกมีเปลือกเช่น กุ้ง ปู หอยที่ปรุงไม่สุก ซึ่งเชื้อมีระยะฟักตัวประมาณ 2 – 6 สัปดาห์ การติดเชื้อในเด็กส่วนใหญ่มีอาการเล็กน้อยหรือไม่มีอาการ แต่ในผู้ใหญ่จะมีอาการแสดงของตับอักเสบเฉียบพลันที่รุนแรงและชัดเจนกว่า

อาการโรคไวรัสตับอักเสบเอ

    อุจจาระ สีซีด

    ปัสสาวะ สีเข้ม ตาและตัวเหลือง

    อ่อนเพลีย อาจมีไข้

    คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร

    ปวดท้อง


เด็กที่อายุน้อยกว่า 6 ปีมักไม่มีอาการ วัยรุ่นขึ้นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ส่วนใหญ่จะมีอาการตับอักเสบเฉียบพลัน โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคตับอักเสบเรื้อรังจากสาเหตุอื่นมาก่อน

 
ผู้ที่ควรรับวัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ

    เด็กอายุมากกว่า 1 ปี

    ผู้ป่วยโรคตับอักเสบเรื้อรัง

    ผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบเอ หรือมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ

    ผู้ที่มีพฤติกรรมรักร่วมเพศ (กลุ่มเพศชาย)

    ผู้ที่ใช้สารเสพติด

    พ่อครัวหรือแม่ครัวที่ต้องปรุงอาหารเป็นประจำ

    ผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศที่มีความเสี่ยงด้านสุขอนามัยต่ำหรือเป็นสถานที่ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสตับอักเสบ เอ ควรได้รับการฉีดวัคซีนก่อนเดินทางประมาณ 1 เดือน


ไวรัสตับอักเสบบี (HEPATITIS B VIRUS)

ไวรัสตับอักเสบบี เป็นสาเหตุของการเกิดภาวะตับอักเสบเรื้อรัง ตับแข็ง และมะเร็งตับ ไวรัสตับอักเสบบีนั้นมีการติดต่อผ่านทางเลือด และการติดต่อจากแม่สู่ลูกซึ่งเป็นทางติดต่อที่พบมากที่สุด

 
การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี

    การมีเพศสัมพันธ์กับคนที่มีเชื้อโดยไม่ได้สวมถุงยางอนามัย

    การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน

    การใช้เข็มสักตามตัวหรือสีที่ใช้สักตามตัวร่วมกัน และการเจาะหู

    การใช้แปรงสีฟัน มีดโกน ที่ตัดเล็บร่วมกัน

    การติดเชื้อขณะคลอดจากแม่ที่มีเชื้อ (ถ้าแม่มีเชื้อลูกมีโอกาสได้รับเชื้อ 90%)

    การถูกเข็มตำจากการทำงาน

    การสัมผัสกับเลือด น้ำเลือด น้ำคัดหลั่ง โดยผ่านเข้าทางบาดแผล

 
อย่างไรก็ดี เชื้อนี้จะไม่ติดต่อกันทางลมหายใจ อาหารหรือน้ำดื่ม การให้นม และการจูบกัน (ถ้าปากไม่มีแผล)


อาการโรคไวรัสตับอักเสบบี

เชื้อจะมีระยะฟักตัวประมาณ 2-3 เดือน แล้วจึงเริ่มแสดงอาการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอาการ

    อ่อนเพลีย คล้ายเป็นหวัด

    คลื่นไส้ อาเจียน

    จุกแน่นใต้ชายโครงขวาจากตับโต

    ปัสสาวะเข้ม

    ตาเหลือง
 

ผู้ที่ควรรับวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี

    ทารกแรกเกิดทุกราย เด็ก และวัยรุ่นที่ไม่ได้รับวัคซีนเมื่อแรกเกิด

    ผู้ป่วยโรคตับเรื้อรัง

    ผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบี

    ผู้มีพฤติกรรมรักร่วมเพศ

    ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่ทำการฟอกไต

    ผู้ป่วยที่ได้รับเลือดบ่อย ๆ

    ผู้ที่ใช้สารเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้น

    ผู้ที่ต้องเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค

 
ไวรัสตับอักเสบซี (HEPATITIS C VIRUS)

ผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีมักจะไม่ทราบมาก่อนว่ามีเชื้อนี้อยู่ในร่างกาย จะทราบก็ต่อเมื่อไปตรวจร่างกายแล้วพบค่าการอักเสบของตับผิดปกติ และตรวจเลือดพบการติดเชื้อ

การติดเชื้อไวรัสชนิดซี สามารถติดต่อกันทางเลือดหรือเพศสัมพันธ์คล้ายกับไวรัสตับอักเสบบี แต่ไม่สามารถติดต่อกันได้ทางการให้นมบุตร การจามหรือไอรดกัน การรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำด้วยกัน และการใช้ถ้วยชามร่วมกัน

 
อาการโรคไวรัสตับอักเสบซี

ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซี ส่วนใหญ่จะไม่ทราบว่าตัวเองติดเชื้อ เนื่องจากมักไม่แสดงอาการ ทำให้เมื่อติดเชื้อเข้าสู่ร่างกาย เกิดการดำเนินของโรคแบบค่อยเป็นค่อยไป หรืออาจมีอาการน้อยและอาการเหมือนโรคทั่วไป เช่น

    เบื่ออาหาร

    อ่อนเพลีย

    ไข้ต่ำๆ

    คลื่นไส้อาเจียน

    ปัสสาวะสีเข้ม


ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบซี ผู้ที่เป็นและไม่ได้รับการรักษาจะกลายเป็นไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรัง และในที่สุดจะเกิดภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญ ได้แก่ ตับแข็ง และมะเร็งตับ


ไวรัสตับอักเสบดี (HEPATITIS D VIRUS)

เป็นไวรัสที่ไม่สมบูรณ์ ต้องอยู่ร่วมกับไวรัสตับอักเสบบี สามารถติดต่อกันได้ผ่านทางการสัมผัสกับเลือดที่มีเชื้อ ผ่านเข็มฉีดยาที่ปนเปื้อน หรือมีเพศสัมพันธ์

การติดเชื้อจะเกิดขึ้นพร้อมกับไวรัสตับอักเสบบีหรือเกิดในผู้ป่วยที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีแฝงอยู่ ในร่างกาย โดยอาการจะทำให้เกิดตับอักเสบซ้ำซ้อนขึ้นมาในผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบี การรักษาเป็นการรักษาร่วมกันไปกับไวรัสตับอักเสบบี


อาการโรคไวรัสตับอักเสบดี

    อุจจาระ สีซีด

    ปัสสาวะ สีเข้ม ตาและตัวเหลือง

    อ่อนเพลีย อาจมีไข้

    คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร

    ปวดท้อง


ถึงแม้ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบดี แต่ยังมีวัคซีนสำหรับไวรัสตับอักเสบบี และเนื่องจากการเกิดโรคตับอักเสบดีต้องอาศัยการติดเชื้อไวรัสอักเสบบีมาก่อน เพราะฉะนั้นการได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีจะช่วยป้องกันการติดเชื้อทั้งสองสายพันธุ์ได้


ไวรัสตับอักเสบอี (HEPATITIS 5 VIRUS)

เป็นการติดเชื้อไวรัสที่ตับและทำให้ตับเกิดการอักเสบ มีลักษณะคล้ายไวรัสตับอักเสบเอคือ ไม่เป็นโรคเรื้อรังเหมือนโรคไวรัสตับอักเสบบี ซี และดี และเมื่อร่างกายต่อสู้กับการติดเชื้อแล้วก็จะหายเป็นปกติ การแพร่เชื้อของโรคไวรัสตับอักเสบอี เกิดจากอาหาร น้ำดื่ม หรืออุจจาระที่มีการปนเปื้อน

 
อาการโรคไวรัสตับอักเสบอี

    ผิวเหลือง ตาขาว(ดีซ่าน)

    ปัสสาวะสีเข้ม

    อุจจาระสีอ่อน

    กดเจ็บบริเวณชายโครงด้านขวา(ตำแหน่งของตับ)

    ปวดช่องท้อง

    คลื่นไส้ และมีไข้

 

โพสต์ฟรี ลงประกาศฟรี ลงโฆษณาฟรี google ลงประกาศขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ประกาศฟรี ขายฟรี ขายรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ สถานที่ท่องเที่ยว เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ Google