ไม่ต้องไปวัดก็ทำบุญได้ - รู้จักบุญทั้ง 10 อย่างให้ครบ

ไม่ต้องไปวัดก็ทำบุญได้ - รู้จักบุญทั้ง 10 อย่างให้ครบ

รู้หรือไม่ทำบุญนั้นมีหลายอย่างและทำได้หลายวิธี ไม่ใช่มีแค่การให้ทาน ใส่บาตร ถวายสังฆทาน หรือ ไปนุ่ขาวห่มขาวอยู่ที่วัดเท่านั้น จะมีอะไรกันบ้าง มาทำความเข้าใจกันเลย
บุญ 10 วิธี

ตามหลักพุทธศาสนา มีการทำบุญด้วยกัน 10 วิธี เรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ 10 (สิ่งอันเป็นที่ตั้งแห่งการทำบุญ 10 ประการ) ได้แก่

1. ให้ทาน แบ่งปันผู้อื่นด้วยสิ่งของ (ทานมัย) ไม่ว่าจะให้ใครก็เป็นบุญ คนส่วนมากมักเข้าใจว่าทำทาน คือ ทำกับคนทั่วไป ส่วนทำบุญ คือ ทำกับพระ จริงๆ แล้วการให้พระก็คือทำทาน เช่น สังฆทาน เป็นต้น

ทำไมได้บุญ - การให้ทานเป็นการช่วยขัดเกลาความเห็นแก่ตัว ความคับแคน ความตระหนี่ถี่เหนียว และความติดยึดในวัตถุ นอกจากนี้สิ่งของที่เราแบ่งปันออกไปก็จะเป็นประโยชน์กับบุคคลหรือชุมชนโดยส่วนรวม


2. รักษาศีล (ศีลมัย)

        ทำไมได้บุญ - การรักษาศีลเป็นการฝึกฝนที่จะ ลด ละ เลิกความชั่ว ไม่ไปเบียดเบียนใคร บ่มเพาะให้เกิดความดีงามและพัฒนาคุณภาพชีวิตไม่ให้ตกต่ำ

3. เจริญภาวนา (ภาวนามัย)

ทำไมได้บุญ - การภาวนาเป็นการพัฒนาจิตใจและปัญญาโดยตรง ทำให้จิตสงบ ไม่มีกิเลส ไม่มีเรื่องเศร้าหมอง เห็นคุณค่าสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริง ผู้ที่ภาวนาอยู่เสมอย่อมเป็นหลักประกันว่า จิตจะมีความสงบ ชีวิตมีความสุข คุณภาพชีวิตดีขึ้น สูงขึ้น


4. อ่อนน้อมถ่อมตน (อปจายนมัย) ผู้น้อยอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ก็แสดงออกในความมีเมตตาต่อผู้น้อย และต่างก็อ่อนน้อมต่อผู้มีคุณธรรมรวมถึงการให้เกียรติ ให้ความเคารพในความแตกต่างซึ่งกันและกันทั้งในความคิด ความเชื่อและวิถีปฏิบัติของบุคคลและสังคมอื่น

ทำไมได้บุญ - เป็นการลดความยึดมั่นถือมั่นในความเป็นตัวตน


5. ช่วยเหลือสังคมรอบข้าง (ไวยาวัจจมัย) ช่วยเหลือสละแรงกาย เพื่องานส่วนรวม หรือช่วยงานเพื่อนบ้านที่ต้องการความช่วยเหลือ

ทำไมได้บุญ - การคิดถึงประโยชน์ของผู้อื่น เป็นการลดความยึดมั่นถือมั่นในเรื่องตัวกู ของกู


6. เปิดโอกาสให้คนอื่นมาร่วมบุญกับเรา (ปัตติทานมัย) คือ การทำบุญแล้วแบ่งอุทิศส่วนกุศลให้ผู้อื่น ให้ผู้อื่นได้ร่วมในการทำความดีนั้น (ทั้งคนเป็นและคนที่ล่วงลับไปแล้ว)

ทำไมได้บุญ - เป็นการปลูกเมตตาในใจ ละความเห็นแก่ "ตัว" ยกระดับจิตใจ


7. ยอมรับและยินดีในการทำความดี หรือทำบุญของผู้อื่น (ปัตตานุโมทนามัย)

ทำไมได้บุญ - การชื่นชมยินดีหรืออนุโมทนา ไม่อิจฉาหรือระแวงสงสัยในการกระทำความดีของผู้อื่น ทำให้จิตใจเกิดความปีติ ยินดี


8. ฟังธรรม (ธรรมสวนมัย)

ทำไมได้บุญ - เมื่อเข้าใจความจริง จะเกิดปัญญาที่นำไปสู่การดำรงชีวิตที่ถูกต้องและสงบเย็น เช่น เมื่อเข้าใจเรื่องความไม่แน่นอน การเปลี่ยนไปของสรรพสิ่ง ทำให้เกิดการปล่อยวางได้ง่าย จิตใจไม่ตกอยู่ในความเศร้างหมอง สามารถละกิเลสได้ง่าย


9. แสดงธรรม (ธรรมเทศนามัย)

ทำไมได้บุญ - เมื่อให้ธรรมะหรือข้อคิดที่ดีกับผู้อื่น ทำให้เขาได้รู้จักวิธีการดำเนินชีวิตที่ดี ลดความทุกข์ของเขา


10. ทำความเห็นให้ถูกต้องและเหมาะสม (ทิฏฐุชุกรรม) - การปรับทิฏฐิ แก้ไขปรับปรุงพัฒนาความคิดเห็น

ทำไมได้บุญ -  ความเข้าใจให้ถูกต้องตามธรรม เป็นการพัฒนาปัญญาอย่างสำคัญ ที่นำไปสู่การมีชีวิตที่ดีงาม สงบเย็น ทั้งกาย วาจา ใจ


หมายเหตุ ทิฏฐุชุกรรมหรือสัมมาทัศนะ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำบุญทุกชนิดและทุกโอกาส จะต้องประกบและประกอบเข้ากับบุญกิริยาวัตถุข้ออื่นทุกข้อ เพื่อให้งานบุญข้อนั้น ๆ เป็นไปอย่างถูกต้องตามความหมายและความมุ่งหมาย พร้อมทั้งได้ผลถูกทาง

"การทำบุญที่ประเสริฐที่สุด คือการทำใจให้เป็นกุศล เช่น การเจริญเมตตาจิต รวมถึงการทำสมาธิภาวนาเพื่อให้เกิดปัญญา ดังนั้นหากชอบทำบุญจริง ๆ จึงควรหมั่นฝึกจิตสม่ำเสมอ เพื่อให้รู้จักอดกลั้น ไม่หงุดหงิดง่าย รู้จักให้อภัยหรือปล่อยวาง"