อาหารสุขภาพ ป้องกันโรคท้องผูกอาหารการกินเป็นสิ่งที่สำคัญมาสำหรับชีวิตเรา ถือเป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีวิต ซึ่งอาหารก็จะมีหลากหลายให้เราเลือกรับประทาน แต่เราควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย แต่ถ้าหากเราเลือกรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์หรือเป็นอาหารที่ไม่มีความจำเป็นต่อร่างกาย อาจจะทำให้เราเกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ หรืออาจจะเกิดอาการท้องเสียหรือท้องผูก ซึ่งอาการเหล่านี้อาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน อาการท้องผูก ไม่ว่าจะเป็นการขับถ่ายไม่ออก ขับถ่ายลำบาก ปวดท้อง ใช้เวลาในการขับถ่ายนาน หรือรู้สึกเจ็บเนื่องจากลักษณะของอุจจาระที่แข็งหรือหนา
ซึ่งนอกจากอาการเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตแล้ว ยังอาจเป็นสัญญาณของโรคต่าง ๆหรือการละเลยการดูแลสุขภาพอีกด้วย เพราะฉะนั้นการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อระบบขับถ่ายก็ถือเป็นเรื่องที่เราควรให้ความสำคัญ ไม่ควรละลายเพราะอาจจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพในด้านอื่น ๆตามมาได้ ดังนั้นทางเราจะมาแนะนำเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ เพื่อป้องกันโรคท้องผูก อาหารอย่างแรกเลยนั่นก็คือ ผักและผลไม้ ถือเป็นอาหารประเภทแรกที่ช่วยในเรื่องของท้องผูกได้ การที่ร่างกายขาดไฟเบอร์หรือใยอาหารอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุของอาการท้องผูก ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่าผักและผลไม้เป็นกลุ่มอาหารที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์และสารอาหารที่มีประโยชน์ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าภายใน 1 วัน ควรรับประทานผักหรือผลไม้อย่างน้อย 400 กรัมหรือเทียบเท่าไฟเบอร์ราว 20-35 กรัม ซึ่งอาจจะช่วยให้ลำไส้สามารถทำงานได้อย่างปกติ ซึ่งแอปเปิ้ล มะนาว ส้ม กีวี่ ลูกฟิก ลูกแพร์ ลูกพรุน ผักปวยเล้ง ผักใบเขียวอื่น ๆ และพืชตระกูลถั่วเป็นผักผลไม้ที่เชื่อกันว่ามีไฟเบอร์สูงและมีสรรพคุณในการบรรเทาอาการท้องผูก นอกจากนี้ สารต้านอนุมูลอิสระจากพืชผักยังอาจช่วยบำรุงร่างกายในด้านอื่น ๆ อีกด้วย
สำหรับอาหารที่ช่วยในเรื่องของการแก้ท้องผูก ก็คือ ผลไม้เช่น มะละกอ เพราะนอกจากมะละกอจะช่วยขับปัสสาวะแล้ว ยังช่วยขับถ่ายได้ดีอีกด้วย เพราะมะละกอสุกมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ รสชาติหวานฉ่ำ ทานง่าย ย่อยง่าย แถมยังมีวิตามินเอสูง มีไขมัน และคอเลสเตอรอลน้อย แต่อย่าทานมากเกินไป เพราะอาจเสี่ยงต่อโรคกระดูก ข้อต่อ และอาจมีอาการเบื่ออาหาร เซื่องซึม หรือนอนไม่หลับได้ นอกจากนี้ แอปเปิ้ลมีสารแพคติน ที่ช่วยเพิ่มกากใยให้กับทางเดินอาหาร จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบขับถ่ายให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้วิตามินซี ที่ช่วยป้องกันโรคหวัด ป้องกันโรคลักปิดลักเปิด และยังช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย และเป็นที่ทรายกันดีว่า กล้วยก็เป็นผลไม้ที่ช่วยแก้ท้องผูกได้เป็นอย่างดี เขาว่ากันว่าหากมีอุจจาระที่มีความแข็งระดับกล้วย ถึงจะเรียกว่าเป็นอุจจาระที่ดี ไม่เหลว และแข็งจนเกินไป
ดังนั้นไม่แปลกที่รับประทานกล้วยแล้วจะช่วยให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น เพราะในกล้วยมีกากใย และสารอาหารในกล้วยช่วยลดอาการท้องผูกได้อย่างเห็นผล แล้วยังช่วยปรับสมดุลของระบบขับถ่ายให้เป็นปกติได้อีกด้วย อีกหนึ่งผลไม้ที่เนื้อสุกมีรสฉ่ำหวาน ช่วยย่อยอาหารจำพวกโปรตีนนั่นก็คือ สัปปะรด เพราะวิตามินซีสูง ลดการอักเสบบวมต่าง ๆ ในร่างกาย และที่สำคัญ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในระบบขับถ่ายได้ดีสุด ๆ
อย่างไรก็ตาม การดื่มชาสมุนไพรก็สามารถแก้ไขเรื่องท้องผูกได้เป็นอย่างดี เพราะชาสมุนไพรมีสรรพคุณเป็นยาระบาย ออกฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ สรรพคุณของชาสมุนไพรอาจแตกต่างกันไปตามชนิดของสมุนไพรในชานั้น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เชื่อกันว่าชาดำ ชาเขียว มะขามแขก ชุมเห็ดเทศ แดนดิไลออน เปลือกกาแฟ สะระแหน่ เป็นสมุนไพรที่สามารถแก้อาการท้องผูกได้ นอกจากนี้การดื่มน้ำเปล่า ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ง่ายมาก เพราะคนเราต้องดื่มน้ำทุกวันอยู่แล้ว เนื่องจากน้ำเป็นสิ่งที่จำเป็นมากต่อร่างกาย ถ้าร่างกายขาดน้ำจะส่งผลให้ร่างกายเกิดปัญหาได้ โดยคนทั่วไปควรดื่มน้ำราว 8 แก้วต่อวันหรือราว 1.5-2 ลิตรต่อวัน เพื่อช่วยให้การระบบทำงานของร่างกายเป็นไปอย่างปกติ ซึ่งรวมถึงการทำงานของลำไส้และระบบขับถ่าย โดยของเหลวจะช่วยให้อุจจาระอ่อนตัวลงและสามารถขับออกได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม เราควรรับประทานอาหารเหล่านี้ในปริมาณที่เหมาะสม หากรักษาด้วยวิธีการรับประทานอาหารดังกล่าวแล้วอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการท้องผูกเรื้อรัง ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจอย่างละเอียด การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยให้ลำไส้และระบบอื่น ๆ ของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น อีกทั้งควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับถ่ายให้เป็นเวลา ซึ่งส่วนใหญ่เวลาที่แพทย์แนะนำคือ 5-30 นาทีหลังจากตื่นนอน ทางเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สุขภาพดี เพราะฉะนั้นเราสามารถดูแลตัวเองได้ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพราะจะช่วยให้ร่างกายของเรา ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บได้นั่นเอง
