การแต่งงานเป็นก้าวสำคัญในชีวิตคู่ของใครหลายๆ คน เป็นการแสดงความมั่นคงในความรักและความผูกพันระหว่างทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ตาม การแต่งงานก็ต้องใช้เงินจำนวนมาก เพราะมีค่าใช้จ่ายหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นค่าสินสอด ค่าจัดงานแต่งงาน ค่าของชำร่วย ค่าเดินทาง ค่าที่พัก เป็นต้น ดังนั้น คู่รักจึงควรวางแผนการ
เก็บเงินแต่งงานอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้เงินก้อนตามที่ตั้งใจไว้
ค่าใช้จ่ายในการแต่งงานมีอะไรบ้าง
ค่าใช้จ่ายในการแต่งงานอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคู่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น สถานที่จัดงาน รูปแบบการจัดงาน จำนวนแขก เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายหลักๆ ที่คู่รักต้องเตรียม ได้แก่
- ค่าสินสอด: เป็นค่าใช้จ่ายที่ฝ่ายชายต้องมอบให้ฝ่ายหญิงเพื่อเป็นค่าตอบแทนในการแต่งงาน
- ค่าจัดงานแต่งงาน: เป็นค่าใช้จ่ายในการเช่าสถานที่จัดงาน ตกแต่งสถานที่ จัดอาหารและเครื่องดื่ม จ้างช่างภาพ ช่างแต่งหน้า เป็นต้น
- ค่าของชำร่วย: เป็นค่าใช้จ่ายในการมอบของที่ระลึกให้กับแขกที่มาร่วมงาน
- ค่าเดินทาง: เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปมาระหว่างสถานที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานแต่งงาน เช่น ค่าเดินทางไปพบญาติผู้ใหญ่ ค่าเดินทางไปซื้อของแต่งงาน เป็นต้น
- ค่าที่พัก: เป็นค่าใช้จ่ายในการพักค้างคืนในช่วงจัดงานแต่งงาน
วิธีเก็บเงินแต่งงานอย่างไรให้ได้ตามฝัน
การเก็บเงินแต่งงานอาจดูเป็นเรื่องยากสำหรับคู่รักที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน แต่หากวางแผนอย่างรอบคอบและลงมือทำอย่างจริงจัง ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไป ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำในการเก็บเงินแต่งงานให้ได้ตามฝัน
- ประเมินค่าใช้จ่ายในการแต่งงาน
ขั้นตอนแรกที่สำคัญคือการประเมินค่าใช้จ่ายในการแต่งงานให้คร่าวๆ เพื่อให้รู้ว่าต้องเตรียมเงินก้อนเท่าไหร่ โดยทั่วไปแล้ว ค่าใช้จ่ายในการแต่งงานจะอยู่ที่ประมาณ 100,000-500,000 บาท ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น - ตั้งเป้าหมายในการเก็บเงิน
เมื่อรู้ค่าใช้จ่ายในการแต่งงานแล้ว ก็ควรตั้งเป้าหมายในการเก็บเงินให้ชัดเจน เช่น ต้องการเก็บเงินให้ได้ 300,000 บาท ภายใน 3 ปี เป็นต้น - วางแผนการใช้จ่าย
นอกจากการวางแผนเก็บเงินแล้ว คู่รักควรวางแผนการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ เพื่อให้มีเงินเหลือเก็บเพียงพอสำหรับการแต่งงาน โดยอาจเริ่มจากการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น ค่าอาหารนอกบ้าน ค่าเสื้อผ้า ค่าเครื่องสำอาง เป็นต้น - หารายได้เสริม
หากคู่รักมีรายได้หลักไม่เพียงพอต่อการเก็บเงินแต่งงาน ก็อาจหารายได้เสริม เช่น ทำงานพิเศษ ขายของออนไลน์ เป็นต้น
ตัวอย่างวิธีการเก็บเงินแต่งงาน
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างวิธีการเก็บเงินแต่งงานด้วยวิธีง่ายๆ คู่รักสามารถปรับให้เหมาะสมกับรายได้และค่าใช้จ่ายของตัวเองได้
- เก็บเงินคนละ 100 บาททุกวัน: คู่รักเก็บเงินคนละ 100 บาททุกวัน รวมเป็น 200 บาทต่อวัน เป็นเวลา 2-3 ปี ก็จะมีเงินเก็บประมาณ 100,000-150,000 บาท
- เก็บเงินคนละ 200 บาททุกวัน: คู่รักเก็บเงินคนละ 200 บาททุกวัน รวมเป็น 400 บาทต่อวัน เป็นเวลา 2-3 ปี ก็จะมีเงินเก็บประมาณ 200,000-300,000 บาท
นอกจากนี้ คู่รักยังสามารถเก็บเงินเพิ่มได้หากมีรายได้มากขึ้นหรือต้องการจัดงานแต่งงานที่หรูหราขึ้น โดยอาจเก็บเงินเพิ่มวันละ 50-100 บาท
ข้อควรระวังในการเก็บเงินแต่งงาน
ในการเก็บเงินแต่งงาน คู่รักควรระวังไม่ให้เป็นหนี้ โดยควรเก็บเงินจากรายได้ที่หามาได้เอง ไม่ควรกู้ยืมเงินจากผู้อื่น เพราะอาจทำให้เกิดภาระหนี้สินในอนาคต นอกจากนี้ คู่รักควรเก็บเงินอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง เพื่อให้มีเงินก้อนตามที่ตั้งใจไว้
การแต่งงานเป็นช่วงเวลาสำคัญในชีวิตคู่ของใครหลายๆ คน คู่รักควรวางแผนการเก็บเงินแต่งงานอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้เงินก้อนตามที่ตั้งใจไว้ และเริ่มต้นชีวิตคู่อย่างมีความสุข