การดูแลผิวมีผลิตภัณฑ์มากมายให้เลือกใช้ หลายคนอาจสงสัยว่า
ไนท์ครีมจำเป็นต้องใช้หรือไม่ และควรเลือกอย่างไรให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับไนท์ครีม ความสำคัญ และวิธีเลือกให้เหมาะกับผิวของคุณ
ไนท์ครีมจำเป็นหรือไม่ ?
ไนท์ครีมเป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับการบำรุงผิวในช่วงกลางคืน ซึ่งตอบโจทย์กระบวนการฟื้นฟูผิวที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติขณะเราหลับ โดยในช่วงกลางคืน ผิวของเรามีการซ่อมแซมตัวเองมากกว่าช่วงกลางวันถึง 3 เท่า ดังนั้น ไนท์ครีมจึงมีความสำคัญอย่างมากในการช่วยสนับสนุนกระบวนการฟื้นฟูผิวธรรมชาติ
ไนท์ครีมมักมีความเข้มข้นของสารบำรุงสูงกว่าครีมกลางวัน เนื่องจากไม่ต้องคำนึงถึงปัจจัยเรื่องการสัมผัสแสงแดดหรือการแต่งหน้าทับ ทำให้ผิวสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ไนท์ครีมยังมักมีส่วนผสมพิเศษที่ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ซ่อมแซมความเสียหาย และต่อต้านริ้วรอยที่อาจเกิดขึ้นจากการทำลายของอนุมูลอิสระในระหว่างวัน
ความแตกต่างระหว่างไนท์ครีมและเดย์ครีม
เดย์ครีมมักเน้นการปกป้องผิวจากปัจจัยภายนอก เช่น มลภาวะ รังสี UV และมีเนื้อสัมผัสที่เบา ไม่เหนอะหนะ บางชนิดอาจมี SPF ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ขณะที่ไนท์ครีมจะเน้นการฟื้นฟูและซ่อมแซมผิว มีเนื้อสัมผัสที่เข้มข้นกว่า และมักมีส่วนผสมที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว และสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่สูงกว่า
การเลือกไนท์ครีมให้เหมาะกับสภาพผิว
การเลือกไนท์ครีมที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาผิวที่คุณกำลังเผชิญ ดังนี้
- สำหรับผิวแห้ง: ผิวแห้งต้องการความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ ควรเลือกไนท์ครีมที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้นสูง เช่น ไฮยาลูรอนิก แอซิด เซราไมด์ หรือกรดไขมันจำเป็น ไนท์ครีมสำหรับผิวแห้งมักมีเนื้อครีมที่เข้มข้น ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวได้ตลอดคืน
- สำหรับผิวมัน ควรเลือกไนท์ครีมที่มีเนื้อบางเบา ไม่อุดตันรูขุมขน แต่ยังคงมอบความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดี เนื้อเจลหรือเนื้อน้ำจะเหมาะกับผิวมัน ควรมองหาส่วนผสมอย่างเช่น กรดซาลิไซลิค หรือ นีอาซินาไมด์ที่ช่วยควบคุมความมัน และลดการอุดตันของรูขุมขน
- สำหรับผิวผสม: ควรเลือกไนท์ครีมที่มีความสมดุล ไม่หนักเกินไปหรือเบาเกินไป อาจเลือกใช้ไนท์ครีมที่มีเนื้อเจลครีม ที่ให้ความชุ่มชื้นแต่ไม่ทำให้รู้สึกมัน และควรมีส่วนผสมที่ช่วยปรับสมดุลความชุ่มชื้นของผิว
- สำหรับผิวแพ้ง่าย: ควรเลือกไนท์ครีมที่มีส่วนผสมน้อย ปราศจากสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น น้ำหอม สี หรือแอลกอฮอล์ ควรมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากระบุว่า "สำหรับผิวแพ้ง่าย" หรือ "ปราศจากสารก่อภูมิแพ้" และมีส่วนผสมของสารที่ช่วยฟื้นฟูผิว เช่น อัลลันโทอิน หรือพันเธนอล
- สำหรับผิวอายุ 30+ ที่เริ่มมีริ้วรอย: ควรเลือกไนท์ครีมที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี วิตามินอี หรือ เรตินอล ซึ่งช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวดูกระชับ และลดเลือนริ้วรอย
เคล็ดลับการใช้ไนท์ครีมให้มีประสิทธิภาพ
- ทำความสะอาดผิวให้สะอาดก่อนใช้ไนท์ครีม เพื่อให้ผิวดูดซึมสารอาหารได้ดีที่สุด
- ใช้หลังจากการใช้เซรั่มหรือเอสเซนส์ ไนท์ครีมควรเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการบำรุงผิว เพื่อช่วยเคลือบและล็อคสารอาหารจากผลิตภัณฑ์ก่อนหน้า
- ใช้ปริมาณที่พอเหมาะ ไม่จำเป็นต้องใช้ในปริมาณมาก เพียงแค่พอประมาณก็เพียงพอ
- นวดเบา ๆ เพื่อให้ผิวดูดซึมได้ดี ควรนวดในทิศทางขึ้น เพื่อช่วยกระชับผิว
- ใช้อย่างต่อเนื่อง การใช้ไนท์ครีมอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว
สรุปแล้ว การใช้ไนท์ครีมเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการดูแลผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณต้องการฟื้นฟูผิวที่เสียหายจากปัจจัยภายนอกในระหว่างวัน การเลือกไนท์ครีมที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณจะช่วยให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่ ช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี กระจ่างใส และดูอ่อนเยาว์ในระยะยาว