การเลือกใช้ผ้ากันไฟในอุตสาหกรรมการเลือกใช้ผ้ากันไฟในงานอุตสาหกรรมนั้นมีความซับซ้อนกว่าการใช้ในบ้านทั่วไป เนื่องจากต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่างเพื่อให้ได้ผ้าที่เหมาะสมกับลักษณะงานและสภาพแวดล้อมที่เฉพาะเจาะจง
1. พิจารณาอุณหภูมิการใช้งาน
ปัจจัยสำคัญที่สุดคือการประเมินอุณหภูมิสูงสุดที่ผ้าต้องเผชิญในระหว่างการทำงาน
งานทั่วไป (อุณหภูมิไม่เกิน 550°C): เหมาะสำหรับงานที่มีประกายไฟและสะเก็ดไฟไม่มากนัก เช่น งานเชื่อมเหล็กทั่วไป
ตัวเลือก: ผ้าใยแก้ว (Fiberglass Fabric) เป็นตัวเลือกที่นิยมใช้มากที่สุด
งานอุณหภูมิสูง (อุณหภูมิ 550°C - 1,000°C): เหมาะสำหรับงานที่ต้องสัมผัสความร้อนสูงอย่างต่อเนื่อง
ตัวเลือก: ผ้าซิลิก้า (Silica Fabric) ซึ่งสามารถทนความร้อนได้สูงกว่าผ้าใยแก้ว
งานอุณหภูมิสูงพิเศษ (อุณหภูมิสูงกว่า 1,000°C): เหมาะสำหรับงานในอุตสาหกรรมหนัก เช่น เตาหลอม
ตัวเลือก: ผ้าเซรามิค (Ceramic Fiber) ซึ่งเป็นฉนวนกันความร้อนที่ทนอุณหภูมิได้สูงมากถึง 1,260°C ขึ้นไป
2. ลักษณะของงานและวิธีการใช้งาน
งานเชื่อมและตัดโลหะ: มักใช้ผ้ากันไฟเป็น ผ้าม่านกันสะเก็ดไฟ (Welding Blanket) เพื่อป้องกันสะเก็ดไฟกระเด็นไปติดวัตถุไวไฟที่อยู่ใกล้เคียง ควรเลือกผ้าที่มีความหนาพอที่จะต้านทานการทะลุผ่านของลูกไฟได้
งานหุ้มฉนวนกันความร้อน: ใช้เป็น ผ้าหุ้มวาล์ว ท่อ หรือเครื่องจักร ที่มีอุณหภูมิสูง เพื่อป้องกันความร้อนไม่ให้แผ่ออกมาและป้องกันการสัมผัสโดยตรง
งานป้องกันเฉพาะส่วน: ใช้เป็น ม่านกันความร้อน (Heat Barrier) เพื่อกั้นพื้นที่ที่ร้อนออกจากพื้นที่ทำงานอื่นๆ
3. คุณสมบัติเพิ่มเติมที่ต้องพิจารณา
ความทนทานต่อสารเคมี: หากต้องใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีกรด, ด่าง, หรือสารเคมี ควรเลือกผ้ากันไฟที่มีการเคลือบสารพิเศษเพื่อป้องกันการกัดกร่อน
การระคายเคือง: ผ้ากันไฟบางชนิด เช่น ผ้าใยแก้วที่ไม่ได้เคลือบสารพิเศษ อาจทำให้เกิดอาการคันหรือระคายเคืองผิวหนังได้ ควรเลือกผ้าที่เคลือบสารกันระคายเคืองหากต้องสัมผัสโดยตรง
ความยืดหยุ่นและน้ำหนัก: ควรเลือกผ้าที่มีความยืดหยุ่นและน้ำหนักเหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อให้ง่ายต่อการติดตั้งและเคลื่อนย้าย
การเลือกผ้ากันไฟที่ถูกต้องตามประเภทการใช้งานและสภาพแวดล้อมจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำงานและป้องกันความเสียหายจากอัคคีภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ