มอเตอร์เอ็กซ์โปร์: เมอร์เซเดส-เบนซ์ GLC350e เอสยูวีพรีเมียมปลั๊กอินไฮบริด (PHEV)

  • 0 ตอบ
  • 1216 อ่าน
มอเตอร์เอ็กซ์โปร์: เมอร์เซเดส-เบนซ์ GLC350e เอสยูวีพรีเมียมปลั๊กอินไฮบริด (PHEV)

เมอร์เซเดส-เบนซ์ GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic  SUV พรีเมียม ไลน์อัพเอสยูวีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกรุ่นหนึ่งของแบรนด์ ปัจจุบันขุมพลังใน GLC ก็ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ เทอร์โบ แบ่ง PHEV และดีเซล เทอร์โบ ในรุ่นทดสอบเป็น PHEV ที่ให้กำลังระดับ 300 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร เคลมวิ่งไฟฟ้าล้วนได้ไกลถึง 120 กม. (มาตรฐาน WLTP)
.
ก่อนว่าเรื่องการขับมาดูภายในห้องโดยสารก่อน แน่นอนว่าทุกอย่างก็เป็นไปตามซีดานคลาส C ต่างชัดเจนหน่อยก็ทรงพวงมาลัยท้ายตัด จริงๆ ดูทะมัดทะแมงกว่า รวมไปถึงการออกแบบตำแหน่งปุ่มทัชต่างๆ บนพวงมาลัย ส่วนตัวชอบจอทัชสกรีนขนาดใหญ่กลางคอนโซลดูเข้าใจและใช้ง่าย แต่รอยนิ้วมือก็ทิ้งไว้มากเช่นกัน จริงๆ การออกแบบให้เรียบง่ายแต่สะดวกต่อการใช้งานตามแนวคิด ‘Zero Layer’ เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยม ใช้ได้ดีจริง แทบไม่เหลือปุ่มกดไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม การได้ AMG package ทั้งภายนอกและภายในทำให้รถดูสปอร์ตและน่าขับมากยิ่งขึ้น รวมทั้งมีโปรแกรมขับออฟโรด Off-Road Engineering Package ไว้ให้ขับลุยทางฝุ่น ดิน ฯลฯ แต่ส่วนตัวก็ไม่เคยเห็นใครยอมเอาเอสยูวีหรูไปลุยให้เลอะ แม้มีระบบรองรับให้ก็ตาม


เอสยูวีรุ่นนี้มีน้ำหนักเกือบ 2 ตัน  ขุมพลังเน้นใช้งานและประหยัด อาจไม่ได้หวือหวาโดนใจทุกคนอยู่แล้ว แต่การควบคุม และเลี้ยวไปตามโค้งทั้งแบบฉับไวและความเร็วกลาง-สูงยังให้การตอบสนองที่แม่นยำและน่าพอใจ  การขับครั้งนี้มีทั้งในเมืองและทางไกลต่างจังหวัดเพื่อครอบคลุมการใช้งานให้เสมือนจริง


เริ่มจากการใช้งานในเมืองถนนสาทรจากจุดรับรถ ซึ่งโหมดการทำงานของรถที่ใช้ในช่วงแรกปรับเป็น EL (electric) ขับด้วยไฟฟ้าล้วนเสมือน EV การขับในเมืองที่รถติดใช้ความเร็วต่ำสลับหยุดนิ่งตลอดเวลาก็แทบไม่ต้องไปยุ่งกับโหมด B (Hold Battery) ซึ่งโหมดนี้ก็จะเหมือนโหมด EV ในรถไฮบริดหลายรุ่น ใช้ความเร็วต่ำและขับไม่ไกลตามแต่ระดับแบตเตอรี่ ส่วนแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนให้พลังงานไฟฟ้า 31.2 กิโลวัตต์ ถูกเสียบปลั๊กชาร์จมาเต็มทำให้ EL วิ่งได้ไม่ต่ำกว่า 100 กม. การขับเคลื่อนควบคุมตัวรถในเมืองตัวรถตอบสนองได้ดี


การเปลี่ยนเลยกระทันหัน ออกตัวสลับหยุดนิ่ง การเชื่อมต่อแบบ wireless กับสมาร์ทโฟนอย่างไอโฟนก็ทำได้ง่าย หน้าจอกลางที่ใหญ่เกือบ 12 นิ้วสไตล์แท็บเล็ต ทำมุมลาดรับไปกับแนวสโลปคอนโซลกลางยังให้การมองและทัชที่ง่าย จากสาทรมุ่งสู่ถนนวิภาวดี เริ่มทำความเร็วได้มากขึ้น ผ่านอยุธยา สระบุรี ถึงนครราชสีมาใช้ทางใหม่ M6 ยกระดับลัดไปปากช่องที่ทดลองเปิดใช้ชั่วคราว (เป็นเส้นทางที่ทำความเร็วได้สะดวกที่สุด แต่ก็ต้องระวังกับทางโค้งและความไม่ชิน) โหมดที่ใช้สลับมา สปอร์ต และไฮบริด ส่วนระดับแบตเตอรี่ก็ลดลงไปตามการใช้งานคิดว่าถึงที่หมายจังหวัดบุรีรัมย์คงหาเวลาชาร์จกลับคืนได้

หลังจากถึงบุรีรัมย์การหาที่ชาร์จไม่ยาก แต่การเสียบชาร์จเอง ณ ที่พักน่าสะดวกกว่า (สายชาร์จไม่ได้ติดมาให้) แต่ก็ไม่ได้ชาร์จจนเสร็จธุระ การเดินทางกลับในวันต่อมาใช้โหมดไฮบริดล้วน อันนี้ก็แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและสะดวกของรถไฮบริด โดยเฉพาะปลั๊กอิน (PHEV) ที่เหมือนการรวมร่างรถ EV กับ ไฮบริดเข้าไว้ด้วยกัน จากน้ำมันเต็มถังเราแวะเติมระหว่างทางเพิ่มไปอีก 28 ลิตร เป็นเบนซินโซฮอลล์ 91 จนถึงกรุงเทพฯ พร้อมขับไปคืนรถอีกวันที่โรงแรมโมดสาทร ด้วยระยะทางรวมทริปนี้เกือบ 1,000 กม. อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันวัดได้ 9.8 ล./100 กม. ใช้พลังไฟฟ้าวัดได้ 1.8 kWh/100 กม.


การขับทางไกลครั้งนี้เน้นจำลองการใช้งานเสมือนจริงของความเป็นเอสยูวีพรีเมียมครอบครัวขนาดกลางสำหรับใครที่มีงบประมาณ 4-5 ล้านบาทเมอร์เซเดส-เบนซ์ GLC เป็นรุ่นขายดีและยอดนิยมมาตั้งแต่เผยโฉมรุ่นแรกเมื่อปี 2015 และการปรับโฉมเพื่อการตลาดบางครั้งก็แทบไม่ได้ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในการใช้งานมากนัก สำหรับ GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic รุ่นนี้มีทุกอย่างครบครันเสมือนเอสยูวีพรีเมียมของครอบครัวพึงมี แต่เทียบกับ GLE 350 de ที่เราขับมาครั้งก่อนแล้วด้วยราคาที่แพงกว่าราว 5 แสนบาท ส่วนตัวยอมไปจบกับรุ่นพี่ดีกว่าครับ

 

โพสต์ฟรี ลงประกาศฟรี ลงโฆษณาฟรี google ลงประกาศขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ประกาศฟรี ขายฟรี ขายรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ สถานที่ท่องเที่ยว เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ Google